ภาษี ณ ที่จ่าย (Withholding Tax) คือ ภาษีที่นายจ้างมีหน้าที่หักจากเงินเดือนหรือค่าจ้างของพนักงานทุกเดือน ก่อนจ่ายให้พนักงาน และนำส่งให้กรมสรรพากร โดยหักตามอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแบบขั้นบันได
✅ ภาษี ณ ที่จ่ายคืออะไร?
- คือการ “หักภาษีล่วงหน้า” ก่อนพนักงานจะได้รับเงิน
- นายจ้างต้องนำส่งภาษีแทนพนักงานในทุกเดือน ผ่านแบบ ภ.ง.ด.1
- พนักงานสามารถนำยอดที่ถูกหักไว้ไปใช้ในการยื่นภาษีประจำปี
✅ อัตราภาษีที่ใช้ (ปีภาษีล่าสุด)
รายได้สุทธิ (ต่อปี) | อัตราภาษี |
---|---|
0 – 150,000 บาท | ยกเว้น |
150,001 – 300,000 | 5% |
300,001 – 500,000 | 10% |
500,001 – 750,000 | 15% |
750,001 – 1,000,000 | 20% |
1,000,001 – 2,000,000 | 25% |
2,000,001 – 5,000,000 | 30% |
5,000,001 ขึ้นไป | 35% |
หมายเหตุ: การคำนวณใช้ รายได้ทั้งปี แล้วเฉลี่ยหักเป็นรายเดือน
✅ ขั้นตอนการคำนวณภาษี ณ ที่จ่าย (พนักงานประจำ)
ตัวอย่าง:
พนักงานเงินเดือน 30,000 บาท/เดือน = 360,000 บาท/ปี
สถานะ: โสด ไม่มีบุตร ไม่มีการลดหย่อนเพิ่มเติม
1. คำนวณรายได้ทั้งปี
= 30,000 x 12 = 360,000 บาท
2. หักค่าลดหย่อนพื้นฐาน
- ค่าลดหย่อนส่วนตัว = 60,000
- ค่าลดหย่อนประกันสังคม (สูงสุด) = 9,000
- ค่าลดหย่อนประกันชีวิต / RMF / บุตร / กองทุน = 0 (ในกรณีนี้)
รายได้สุทธิ = 360,000 – (60,000 + 9,000) = 291,000 บาท
3. คำนวณภาษีตามขั้นบันได
เนื่องจากรายได้สุทธิอยู่ในช่วง 150,001 – 300,000 → เสียภาษีเฉพาะส่วนเกิน 150,000
- 291,000 – 150,000 = 141,000
- 5% ของ 141,000 = 7,050 บาท / ปี
ภาษี ณ ที่จ่ายต่อเดือน = 7,050 ÷ 12 = 587.50 บาท
✅ รายการที่สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้
รายการ | วงเงินลดหย่อน |
---|---|
ค่าลดหย่อนส่วนตัว | 60,000 บาท |
คู่สมรสไม่มีรายได้ | 60,000 บาท |
บุตร (คนละ) | 30,000–60,000 บาท |
ประกันสังคม | สูงสุด 9,000 บาท |
ประกันชีวิต | สูงสุด 100,000 บาท |
RMF / SSF / กองทุนอื่น ๆ | ตามเกณฑ์กรมสรรพากร |
ถ้าให้พนักงานกรอกข้อมูลให้ครบ HR จะคำนวณได้แม่นยำมากขึ้น
✅ นายจ้างต้องทำอะไรบ้าง?
- หักภาษีตามสูตรทุกเดือน
- ออกสลิปเงินเดือนที่แสดงยอดหักภาษี
- ส่งแบบ ภ.ง.ด.1 พร้อมชำระภาษีที่หักไว้ ภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป (หรือวันที่ 15 ถ้ายื่นออนไลน์)
- ออกใบ รับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) ให้พนักงานทุกปี
✅ สรุป
การหักภาษี ณ ที่จ่ายเป็นหน้าที่ที่สำคัญของ HR และเจ้าของกิจการ
การคำนวณผิดอาจนำไปสู่ค่าปรับหรือความไม่โปร่งใสในระบบบัญชี
การใช้ระบบ Payroll ที่ช่วยคำนวณภาษีอัตโนมัติจึงเป็นทางเลือกที่ควรพิจารณา